ไพ่แบงค์เกอร์เพลย์เยอร์ หรือ บาคาร่า เป็นเกมไพ่ที่เล่นได้ทั้งในคาสิโนและคาสิโนออนไลน์ โดยเป็นเกมที่มีความนิยมในเอเชียรวมถึงทั่วทั้งโลกที่มีการเปิดให้เล่นเช่นกัน กฎการเล่นของเกมนี้ค่อนข้างง่าย ผู้เล่นไม่ต้องมีความชำนาญหรือมีความรู้พิเศษในการเล่นไพ่ก็เข้าร่วมเกมได้ ดังนั้น เกมนี้เป็นที่นิยมเพราะความง่ายในการเข้าร่วมเล่น แถมยังสามารถทำเงินมหาศาลให้กับผู้ที่เข้ามาเล่นได้อีกด้วย
กติกาของเกมแบงค์เกอร์เพลย์เยอร์
- ในเกมแบงค์เกอร์เพลย์เยอร์ ผู้เล่นจะได้รับไพ่สองใบและเจ้ามือ (Dealer) ก็จะได้รับไพ่สองใบเช่นกัน
- จากนั้นผู้เล่นจะต้องเลือกว่าจะวางเดิมพันว่า แบงค์เกอร์ หรือ เพลย์เยอร์ จะชนะหรือเสมอกัน ถ้าเกิดกรณีเสมอผู้เล่นสามารถวางเดิมพันได้เพียงสัญลักษณ์เดียว คือ Tie โดยสัญลักษณ์เดียวที่ตัวเลขใกล้เคียงกับ 9 จะชนะในกรณีเสมอ
- คะแนนของไพ่จะนับเป็นตามค่าตัวเลขที่ปรากฏบนไพ่ แต่มีกฎพิเศษคือ หากผลรวมของค่าตัวเลขบนไพ่สองใบมีเกิน 9 จะถูกตัดเอาเลขหลักหน่วยเท่านั้น ยกตัวอย่างเช่น 7+8=15 จะถูกตัดเป็น 5
- หากผู้เล่นหรือเจ้ามือมีไพ่รวมคะแนน 8 หรือ 9 จะไม่มีการรับไพ่เพิ่ม และผู้เล่นที่มีไพ่รวมคะแนนมากกว่าเจ้ามือจะชนะในตานั้นๆ
- หากผู้เล่นหรือเจ้ามือมีไพ่รวมคะแนนน้อยกว่า 6 จะต้องรับไพ่เพิ่ม ซึ่งจะเป็นตามกฎที่กำหนดไว้
- เมื่อไพ่ถูกแจกและเล่นเสร็จสิ้น จะนับคะแนนของแต่ละฝ่ายแล้วตัดสินผลใครชนะ ถ้าผู้เล่นเดิมพันว่า แบงค์เกอร์ และชนะจะได้รับรางวัลที่เท่ากับยอดเดิมพัน หากเลือกวางเดิมพัน เพลย์เยอร์ และชนะจะได้รับรางวัลที่เท่ากับยอดเดิมพันที่ลบค่าคอมมิชชั่นที่เกี่ยวข้อง
ลักษณะพิเศษของไพ่บาคาร่า
ชุดไพ่บาคาร่าประกอบด้วยไพ่ใบเดียวทั้งหมด 52 ใบ แบ่งออกเป็นสี่สัญลักษณ์หลักคือดอกผ้า (Spades) ดอกจิก (Hearts) ข้ามหลามตัด (Diamonds) หอก (Clubs) ในแต่ละดอกจะประกอบด้วยไพ่ตั้งแต่ตัวเลข 2 จนถึง Ace และไพ่ใบเดี่ยวทั้งสี่ไพ่ตัวผู้ชนะ (Jacks) ไพ่หัวใจ (Queens) ไพ่กษัตริย์ (Kings) โดยทั้งหมดจะมีสีดำและสีแดง
ไพ่แบงเกอร์เพลย์เยอร์มีการออกแบบสวยงามและมีความละเอียดสูง ทำให้เหมาะสำหรับการใช้ในเกม์ต่าง ๆ การแสดงการเล่นไพ่มืออาชีพ นอกจากนี้ยังมีรุ่นพิเศษอื่น ๆ ของไพ่แบงเกอร์เพลย์เยอร์ เช่นไพ่แบงเกอร์ที่มีการเพิ่มลายการ์ตูนหรือการจัดแสดงที่เฉพาะเจาะจง
อัตราการจ่ายไพ่บาคาร่า
อัตราการจ่ายในเกมบาคาร่าขึ้นอยู่กับการเดิมพันที่คุณวางเดิมพันไว้ นี่คืออัตราการจ่ายที่ส่วนใหญ่ใช้ในเกมบาคาร่า
- การเดิมพันในมือของผู้ชนะ (Player): จ่าย 1:1 หรือเท่ากับจำนวนเงินที่คุณเดิมพัน
- การเดิมพันในมือของบ้าน (Banker): จ่าย 1:0.95 หรือจ่ายเงิน 95% ของจำนวนเงินที่คุณเดิมพัน
- การเดิมพันเสมอ (Tie): จ่าย 8:1 หรือ 9:1 อย่างไรก็ตาม บางทีอัตราการจ่ายอาจแตกต่างกันไปที่แต่ละคาสิโน
ควรจำไว้ว่าคาสิโนอาจมีการหักค่าคอมมิชชั่นจากการชนะของฝั่งเจ้ามือ (Banker) ซึ่งสามารถเป็นไปได้ว่าจะเป็นอัตราการจ่ายที่ต่ำกว่า 1:0.95 อาจเป็น 1:0.9 หรือแม้กระทั่ง 1:0.5 ขึ้นอยู่กับกฎระเบียบของแต่ละคาสิโน และตารางการจ่ายรางวัลที่ใช้ในการเล่นบาคาร่า
โอกาสที่จะแพ้ชนะบาคาร่า
การเล่นบาคาร่าเป็นการพนันที่ผลขึ้นอยู่กับโอกาส และไม่มีวิธีที่แน่นอนที่จะทำให้คุณชนะเสมอในทุกเกม การเสี่ยงดวงในการเล่นบาคาร่าสร้างความสนุก ความตื่นเต้นให้กับผู้เล่น แต่มีสิ่งที่คุณสามารถทำได้เพื่อเพิ่มโอกาสในการชนะหรือลดความเสี่ยง ดังนี้
เลือกเล่นที่โต๊ะที่มีอัตราการจ่ายที่เหมาะสม
สังเกตระดับการจ่ายเงินของตารางบาคาร่าแต่ละโต๊ะ และเลือกที่มีการจ่ายเงินสูงสุดในฝั่งของผู้ชนะ ซึ่งมีค่าคอมมิชชั่นที่น้อยกว่า
ลองใช้กลยุทธ์การเดิมพันที่เป็นที่นิยม
มีกลยุทธ์หลายแบบที่คนใช้เล่นบาคาร่า เช่น กลยุทธ์ Martingale ที่คุณเพิ่มการเดิมพันของคุณหลังจากที่คุณแพ้ หรือกลยุทธ์ Fibonacci ที่คุณเพิ่มการเดิมพันตามลำดับเลข Fibonacci อย่างไรก็ตาม จำไว้ว่าไม่มีกลยุทธ์ใดที่สามารถรับประกันความชนะในระยะยาว การใช้กลยุทธ์อาจเสี่ยงต่อการสูญเสียเงิน ในกรณีที่คุณเกิดความไม่สมดุลในการเดิมพัน
จำกัดการเดิมพัน
กำหนดขอบเขตการเดิมพันเพื่อป้องกันการสูญเสียเงินที่มากเกินไป แนะนำให้คุณกำหนดงบประมาณที่สามารถขาดทุนได้และยึดตามหลักการนี้ตลอดเวลาที่เล่นเกม อย่าเสียเวลาไล่ตามเงินที่เสียไปเด็ดขาด เพราะมันอาจจะนำมาซึ่งความสูญเสียเงินส่วนอื่นๆตามมา